top of page

ทำรูปแบบการออกแบบ(ออกแบบภายใน)อย่างนั้นไปทำไม ?!!

  • รูปภาพนักเขียน: gpetdum
    gpetdum
  • 1 ก.ย.
  • ยาว 2 นาที

หลายๆท่านในตอนนี้คงกำลังตัดสินใจในการว่าจ้างนักออกแบบภายใน เพื่อตกแต่งภายในสถานที่ของท่าน ในการออกแบบหลังจากที่ท่านบอกความต้องการ และได้รับนำเสนอแบบร่างนำเสนอจากนักออกแบบ เพื่อให้เห็นแนวทางและรูปแบบการออกแบบภายใน ทั้งเป็น ภาพ 3Dperspective วีดีโอ ฯลฯแล้ว ในบางครั้งท่านอาจจะประหลาดใจ ประทับใจ หรืออาจดีใจปนตกใจ ในความสวยงาม อลังการ ความแปลกใหม่ต่างๆ จากความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบ ทั้งๆที่ประทับใจสุดๆ แต่แอบกังวลกับงบประมาณการก่อสร้างตกแต่งที่จะเกิดขึ้นตามมา ใจนึงก็อยากได้ ใจนึงก็หวั่นๆ ต้องออกแบบภายในในรูปแบบแค่ไหน ถึงจะเพียงพอ เหมาะสม บทความนี้จะมาช่วยในการตัดสินใจของท่าน เพื่อการตัดสินใจจะ approve แบบ หรือจะปรับเปลี่ยนแบบ เพื่อเป็นแนวทางให้ท่านได้พิจารณาในการตัดสินใจ ดังนี้


- รูปแบบการออกแบบ

- งบประมาณ

- บริบทและสภาพแวดล้อมในการตัดสินใจ

- รสนิยม

- พฤติกรรมการใช้งาน

- ประเภทและที่ตั้งโครงการ (สภาพแวดล้อม)

- สรุป


  • รูปแบบการออกแบบ

- รูปแบบทางการออกแบบในการออกแบบภายใน มีหลากหลายมากมาย ในแต่ละรูปแบบมีรายละเอียดที่ต่างกันออกไป เช่น รูปแบบทันสมัย (Modern) จะมีลักษณะเรียบง่าย เกลี้ยงเกลา วัสดุเรียบ เช่น สีพ่น ลามิเนตปิดผิวเรียบฯ รูปแบบloft อาจจะเหมาะกับงานรีโนเวท เพราะใช้วัสดุเดิมเป็นพื้นฐาน (อ่านบทความ loft ได้ที่นี่) รูปแบบ classic/modern classic/vintage ฯลฯ จะมีรายละเอียดที่มาก ในพื้นที่ที่เท่ากัน มีส่วนประดับตกแต่งเพิ่มเข้ามา เช่น คิ้วบัว ลูกฟัก แกะสลัก จากเรียบๆจะเพิ่มปริมาณและรายละเอียดเข้ามา เป็นต้น รูปแบบที่ต่างกัน จะให้อารมณ์ กลิ่นอายที่แตกต่างกัน และแน่นอนงบประมาณที่ต่างกันไปตามปริมาณ/คุณภาพ แหล่งที่มา ของราคาวัสดุ ฝีมือช่าง เป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต่างกันและควรพิจารณาในการออกแบบภายใน คือ หน้าที่ใช้สอย (function) เช่น ตู้ใบหนึ่งบานเปิดคู่2บานเหมือนกัน ในรูปแบบ modern จะเป็นบานเรียบ ในรูปแบบ classic บานนั้นอาจจะมีกรอบบานเป็นไม้ ลูกฟักเป็นกระจก ติดคิ้วแสตนเลสสีทอง (Rose Gold) ซึ่งก็มีความละเอียดของงานที่ต่างกันออกไป

- ในงานสถาปัตยกรรมก็เช่นเดียวกัน ตึกแถวคูหาเดียวกัน โครงสร้างเสาคานเหมือนกัน ทั่วๆไปจะมีรูปแบบเรียบๆ หน้าต่าง-ประตูสำเร็จรูป ก็ใช้งานเหมาะกับการเป็นตึกแถว แต่หากเป็นตึกแถวในบริบทหน้าที่อื่นๆ อาจจะต้องมีการตกแต่งเปลือกอาคาร (facade design) หน้าต่างกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า ซึ่งก็ให้ภาพลักษณ์ที่ต่างกัน ซึ่งจะกล่าวในหัวข้อบริบทและสภาพแวดล้อมในการตัดสินใจ

รูปแบบการออกแบบสถาปัตยกรรม หรือการออกแบบภายใน ที่มีความแตกต่างกันตามบริบทแวดล้อมที่ต่างกัน
ตัวอย่าง: หากจะต้องเลือกรูปแบบการออกแบบบ้านพัก Pool Villa ซักหลังก็คงไม่ยากที่เลือกแบบทางขวา แต่จะขวาบนหรือล่าง ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยบริบทหลายๆอย่าง
  • งบประมาณ

งบประมาณที่ท่านต้องใช้ในการออกแบบภายในจะแตกต่างกัน จากหัวข้อที่แล้ว (รูปแบบการออกแบบ) ยกตัวอย่างเช่น ตู้กว้าง 1.00 ม. สูงประมาณ 2.00ม. ถ้าเป็นแบบ เรียบๆ (Modern) ราคาอาจจะอยู่ที่เมตรละประมาณ 15,000 แต่หากเป็นตู้ที่หน้าบานฉลุลาย ติ้วคิ้ว หรือติดวัสดุที่พิเศษ (หายาก) อาจจะบวกราคาขึ้นไปถึง 50% จากแบบแรก อาจจะถึง 30,000 บาทต่อเมตร เพราะต้องใช้เครื่อง CNC หรือต้องสั่งทำจากแหล่งผลิตที่อื่นมาประกอบ แน่นอนว่าการมีรายละเอียดที่มากกว่าย่อมนำมาซึ่งอารมณ์ ความงาม ความพิเศษที่วิจิตรกว่าเป็นสิ่งที่ดี ไม่มีผิดถูก ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความพึงพอใจ แต่ความเหมาะสมนั้นก็อยู่ในเรื่องบริบทและสภาพแวดล้อมที่จะตัดสินใจ


  • บริบทและสภาพแวดล้อมในการตัดสินใจ

จากสองข้อที่กล่าวมา ในเรื่องรูปแบบการออกแบบและงบประมาณในการออกแบบภายใน ในข้อนี้จะมากล่าวถึงความเหมาะสมในการตัดสินใจเลือกในการออกแบบภายใน

  1. รสนิยม

    หากท่านมีรสนิยมเฉพาะตัว และงบประมาณที่เพียงพอ ไม่ว่าจะรูปแบบการออกแบบไหน งบประมาณเท่าไหร่คงไม่มีปัญหา บอกรูปแบบ สไตล์กับนักออกแบบภายในไปได้เลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าโครงการที่จะทำนั้นเป็นโครงการประเภทอะไร หากเป็นที่พักส่วนตัว เช่น ห้องหรือบ้านพักอาศัยส่วนตัวคงไม่เป็นไร แต่หากเป็นโครงการสาธารณะที่มีผู้ใช้ที่มีรสนิยมหลากหลายแตกต่างกัน เช่น โรงแรม สำนักงาน หรือโครงการประเภทที่มีภาพลักษณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง อาจจะต้องยอมปล่อยให้นักออกแบบทำการ research เพื่อสร้างโปรแกรมการออกแบบแนวทางในการออกแบบให้เหมาะสม เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจหรือประสบการณ์ที่ดีและบอกต่อของผู้เข้าใช้อาคาร

  2. พฤติกรรมการใช้งาน

พิจารณาว่าการใช้งานนั้นมีผลต่อรูปแบบที่จะเลือกแค่ไหนโดยมีงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง ยก ตัวอย่างเช่น บ้านพักอาศัยหลังหนึ่งที่ทางเราเคยออกแบบภายในให้ ในตอนแรกจากรูปแบบโจทย์ ภาพตัวอย่างในใจของทางเจ้าของบ้าน และงบประมาณ เราออกแบบให้ได้อย่างเหมาะสม แต่ เมื่อถึงจุดนึงเจ้าของบ้านมีเหตุต้องลดงบประมาณลง เราจึงต้องเลือกปรับรูปแบบการออกแบบที่ คิดว่ามีราคาสูงออกไป ในที่นี้คือ หัวเตียง ซึ่งเจ้าของบ้านเองก็ชอบและเสียดายมาก แต่เมื่อ พิจารณาจริงๆแล้ว เจ้าของบ้านเองแทบไม่ได้นอนในห้องนอนนี้เลยซึ่งเป็นห้องนอนใหญ่ (เจ้าของบ้านทำงานเป็นกะดึกซะส่วนใหญ่) จึงปรับลดรูปแบบลง ซึ่งสามารถลดงบประมาณส่วน นี้ไปได้ถึงครึ่งแสน สามารถนำงบตรงนี้ไปทำอย่างอื่นได้อีก หรือแม้กระทั่งตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ทำ สูงถึงฝ้าเพดาน ในบางบ้านแทบไม่ได้ใช้เพราะมีขนาดพื้นที่ทำตู้เสื้อผ้ามากอยู่แล้ว และไม่ สะดวกใช้บันไดขึ้นไปเก็บของ ก็อาจจะไม่จำเป็นทำช่องเก็บของด้านบน อาจจะใช้วิธีการ ออกแบบให้มีรูปแบบที่เรียบร้อย และไม่เก็บฝุ่นแทนได้

รูปแบบการออกแบบหัวเตียงในการออกแบบภายในที่แตกต่างกัน ในห้องนอน ซึ่งมีความต่างในรายละเอียด ราคา แต่หน้าที่ใช้สอยเดียวกัน
ตัวอย่าง: รูปแบบหัวเตียงที่มีหน้าที่ป้องกันความชื้นหรือความร้อนจากผนังบริเวณศรีษะเวลานอน แต่ปรับรูปแบบที่ต่างๆกัน จากน้อยไปมาก

ประเภทและที่ตั้งโครงการ (สภาพแวดล้อม)

ตู้ เตียง โต๊ะ ผนัง ฝ้าเพดาน ฯลฯ องค์ประกอบทางการออกแบบภายในต่างมีหน้าที่ใช้สอยที่ตายตัว แต่ควรพิจารณาว่าลักษณะของโครงการเป็นประเภทใด หากมีผลต่อการค้าพาณิชย์ รูปแบบการออกแบบนั้นมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจเลือกของลูกค้า หากท่านทำอาคารพาณิชย์เพื่อให้เช่าทั่วๆไป รูปแบบการออกแบบอาคารจะไม่ได้หวือหวาหรือมีความเฉพาะมากนัก แต่หากเป็นอาคารพาณิชย์ในลักษณะที่สร้างเพื่อให้แบรนด์สินค้าต่างๆเข้ามาใช้พื้นที่และอยู่ในlocation ที่ผู้คนมีกำลังซื้อเข้าใช้บริการมาก ท่านอาจจะต้องเลือกรูปแบบการออกแบบที่เป็นที่จดจำและมีเอกลักษณ์ เช่น ออกแบบที่ทันสมัย มีความเฉพาะตัว เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการบอกต่อเพื่อความคุ้มค่าของโครงการของท่าน เช่นเดียวกับห้องพักในโรงแรม อาจจะต้องพิจารณาว่าการออกแบบภายในนั้นตอบสนองผู้ใช้กลุ่มใด นักศึกษา-ผู้เช่ารายเดือน หรือนักท่องเที่ยว ตู้ โต๊ะ เตียง ฯลฯ เหล่านั้นจะมีการออกแบบภายในที่มีรูปแบบไม่เหมือนกัน และจะทำให้ท่านกำหนดค่าบริการตามเรทราคาที่ต้องการได้ ค่าเข้าพักหนึ่งคืนอาจจะตั้งได้ตั้งแต่ 500-10,000บาท ขึ้นอยู่กับประเภทและที่ตั้งโครงการ นั่นก็อาจจะเหมาะในการลงทุน และเพิ่มงบประมาณกว่าปรกติ ซึ่งงบประมาณในการออกแบบภายในก็จะต่างกันออกไปด้วย เนื่องจากมีรายละเอียดที่ต่างกัน (อ่านบทความเรื่องค่าออกแบบภายใน)


  • สรุป

หากแปลน ขนาดพื้นที่เดียวกัน แนวทางหรือรูปแบบเดียวกัน นักออกแบบภายในสามารถสร้างสรรค์รูปแบบการออกแบบได้หลากหลายมากมาย เรียกว่า ใส่ได้ไม่ยั้ง!กันได้ทีเดียว การพิจารณา ตัดสินใจ ความเหมาะสมนั้น มีหลากหลายปัจจัย ทั้ง รสนิยม งบประมาณ พฤติกรรมการใช้งาน ลักษณะของโครงการและธุรกิจ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยพิจารณาสนับสนุนในรูปแบบการออกแบบของนักออกแบบ ทั้งนี้ผู้ตัดสินใจก็คือท่านเจ้าของโครงการเอง

และสุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ เป็นตัวช่วยในการให้ข้อคิดในการตัดสินใจเลือกรูปแบบการออกแบบ ของงานออกแบบภายในของท่านเอง และหากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษางานออกแบบภายในและงานสถาปัตยกรรม เรายินดีให้คำปรึกษา

Tel: 0909735863

Line: pilasterstudio


อ่านบทความสาระความรู้เกี่ยวกับงานออกแบบภายในอื่นๆ ของเราได้ที่นี่ https://www.pilasterstudio.com/publishing


ความคิดเห็น


แบบฟอร์มสมัครรับข่าวสาร

ขอบคุณสำหรับข้อมูล!

(+66)090 973 5863

line: pilasterstudio

  • Google Places
  • Facebook
  • Instagram

©2020 by Pilaster Studio Design.

bottom of page