การออกแบบตกแต่งภายในสไตล์ลอฟต์ กำลังเป็นที่นิยมๆ หลายๆท่านมีความนิยมชื่นชอบในการตกแต่งสไตล์นี้ที่แสดงออกถึงความดิบ ความหยาบความไม่สมบูณ์แบบ ความสวยงามที่เกิดจากสัจจะวัสดุ (การโชว์เนื้อแท้ของวัสดุเดิมที่ไม่มีการปิดบังเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงแท้ของวัสดุนั้น) โดยความเป็นมาของงานออกแบบสไตล์นี้ดั้งเดิมเริ่มมาจากการนำอาคารเก่ากลับมาใช้ใหม่ โดยเฉพาะโรงงานในประเทศแถบซีกโลกตะวันตก เพื่อนำมาปรับใช้ใหม่เป็นอาคารประเภทอื่น เช่น ที่พักอาศัย ร้านค้า ฯลฯ ดังนั้นรูปแบบหรือวัสดุต่างๆ ยังเป็นวัสดุเดิมของอาคารโรงงานของเช่น ปูนเปลือย อิฐโชว์แนว เหล็ก ฯลฯ ซึ่งยังมีรูปแบบและสภาพเดิมอยู่ คือ ยังดิบ ยังเก่า มีรอยแตก รอยความไม่สมบูรณ์ ฯลฯ แต่หากว่าเราจะทำอาคารใหม่โดยเลือกรูปแบบการออกแบบสไตล์ลอฟต์ซึ่งขัดกับที่มาและธรรมชาติของมัน (ทำของใหม่ให้เป็นเก่า)นั้น
“ผมขอขอเตือนให้คิดซักนิดว่า เฮ้ย! "เอาจริงดิ” …….แล้วถ้าคุณตรึกตรองแล้วตอบว่า
“ เอาจริง ก็คนมันชอบ”
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วละก็เราก็ยอมแพ้ และก็ขอแนะนำ 10 เรื่อง ที่อาจเกิดขึ้นได้กับการออกแบบ บ้านหรือตกแต่งภายในสไตล์ลอฟต์ที่เกิดจากสร้างใหม่ เพื่อเตียมใจเตรียมตัวรับมือกับมัน
1. วางแผนงานดีๆ หากแก้ไขเนื้อปูนใหม่ไม่มีทางเท่าของเก่า
การออกแบบบ้านหรือการตกแต่งภายในสไตล์ลอฟต์ในงานก่อสร้างใหม่ต้องวางแผนงานให้ดี โดยเฉพาะการเข้างานของฝ่ายช่างก่อสร้างในหมวดต่างๆ เพราะถ้าไม่วางแผนไม่ดี หากมีการแก้ไข รื้อถอน จะมีตำหนิได้ โดยเฉพาะงานผนังปูนเปลือยขัดมัน เพราะปูนเก่าที่ทำไปแล้วกับปูนใหม่ที่เข้าไปซ่อมแซมรอยตำหนิจะไม่มีทางเห็นเป็นสีเนื้อเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ย้ายจุดเดินไฟ ปลั๊กหรือสวิทซ์ เมื่อย้ายไปแล้วจะเป็นร่อยรอย เมื่อเอาปูนใหม่เข้าไปเก็บ สีจะไม่เนียน จะเป็นรอยกระด่ำกระด้าง หากเป็นงานฉาบเรียบทาสีจะไม่มีปัญหาเลย หรือถ้าอย่างนั้นต้องแก้ไขฉาบขัดมันใหม่ทั้งผนัง หรือตัวช่วยอื่นๆเข้าไป เช่น ปูนลอฟต์สำเร็จรูป ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม อีกทั้งสีหรือลายก็จะไม่เหมือนผนังอื่นๆ
2. ท่อร้อยสายไฟ ฝังหรือโชว์? ถ้าโชว์ต้องท่อเหล็กเท่านั้น
โดยดั้งเดิมงานสไตล์ลอฟต์เป็นงานโรงงานที่ท่อระบบงานต่างๆ จะเดินโชว์ท่อเพราะมีปริมาณเยอะ และง่ายต่อการดูแลรักษา แต่ในปัจจุบันเรานำการออกแบบตกแต่งสไตล์ลอฟต์นี้มาใช้กับอาคารใหม่ ไม่ว่าจะเป็น บ้านพักอาศัย หรือ อาคารประเภทอื่นก็ตาม ซึ่งด้วยเทคนิคการก่อสร้างในปัจจุบันมีการฝังท่อสายไฟหรืองานระบบอื่นๆไปในผนังเพื่อความเรียบร้อยสวยงามและคงทน ซึ่งหากเราจะเลือกการออกแบบบ้านหรือตกแต่งสไตล์นี้แล้วละก็เราต้องเลือกพิจารณาดังนี้
เลือกฝังในผนังบ้างก็ได้ เช่นในห้องที่เราต้องการความเรียบร้อย สงบ ไม่ยุ่งเหยิง เช่น ห้องนอน ห้องเด็ก ห้องน้ำ เพราะบางทีความเรียบร้อยก็เป็นมิตรกับจิตวิทยาการอยู่อาศัย
เลือกเดินท่อโชว์ก็ดี การเดินท่อโชว์ก็จะเป็นรูปแบบที่กลมกลืนกับการออกแบบตกแต่งสไตล์ลอฟต์ ดูแลรักษาง่าย เพียงแต่การเดินท่อโชว์มันควรเป็นท่อโลหะ เพื่อความคงทนและกลมกลืนกับการตกแต่งสไตล์ลอฟต์ เพราะถ้าเป็นท่อพีวีซี มันจะดูหลอกมากๆ ลองจินตนาการผนังปูนเปลือยหรือผนังอิฐแล้วเดินท่อพีวีซีสีเหลือง สีขาว หรือสีฟ้าดูสิครับ เพราะฉะนั้นหากเลือกเดินท่อโชว์แล้วละก็เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ อีกประเด็นคือ ท่อโลหะมีราคาสูงกว่าท่อพีวีซีมาก อีกทั้งต้องใช้ช่างผู้ชำนาญในการวางแผนแนวการเดินท่อและการดัดโลหะเพื่อเปลี่ยนทิศทางท่อ ซึ่งไม่ง่ายเลยทีเดียว
3. "ลอฟต์จริงๆ เพดานมันสูงนะ" เราต้องทำห้องสูงขนาดนั้นเลยหรือ? ด้วยจุดกำเนิดดั้งเดิมของการออกแบบตกแต่งภายในสไตล์ลอฟต์นั้นมีที่มาจากอาคารโรงงานเก่า ซึ่งโดยทั่วไปอาคารเหล่านั้นจะเป็นโครงสร้างเหล็กที่สูงและกว้างมาก แต่พอเรานำมาใช้ในการออกแบบบ้านซึ่งมีความสูงของห้องไม่มากนักก็ต้องพิจารณาให้ดี ว่าเราต้องการความสูงขนาดนั้นเลยหรือ การนำสไตล์การออกแบบตกแต่งสไตล์ลอฟต์มาใช้หากสัดส่วนความสูงไม่ได้อาจจะดูไม่สวยงามหรืออึดอัด เพราะพื้นผิวหรือสีวัสดุที่ใช้มีการให้ความรู้สึกที่หนัก หยาบ ควรเลือกใช้การตกแต่งสไตล์นี้ให้เหมาะสม เช่น ห้องนั่งเล่น หรือโถงต่างๆ อาจจะออกแบบให้มีความสูงมากหน่อยได้ เพื่อใช้การตกแต่งสไตล์นี้อย่างไม่เคอะเขิน อีกอย่างก็คือ สัดส่วนประตูหน้าต่างที่ใช้สำหรับห้องที่สูงเหล่านั้นต้องสูงตาม เพื่อสัดส่วนความงามที่สมดุลกัน
ภาพประกอบในข้อที่ 1-3 ตามลำดับ
4. ก่ออิฐโชว์แนวมันไม่ง่ายอย่างที่คิด!
การเลือกใช้ผนังก่ออิฐโชว์แนวต้องพิจารณาให้ดีเพราะมันอาจไม่สวยอย่างที่เราคิด เนื่องจาก
ฝีมือช่างก่ออิฐ อันนี้ต้องดูฝีมือกันมาก่อน ถ้าก่อไม่ดีก็อาจไม่เป็นดังหวัง
ผนังช่วงยาวๆ หรือสูง การก่ออิฐโชว์แนวอาจทำไม่ได้ตลอดแนว เพราะจะมีการคั่นด้วยเอ็นหรือธรณีปูน(คสล.) เพื่อความแข็งแรง ดังนั้นวางแผนเลือกผนังให้ดี ตั้งใจโชว์แนวเสา เอ็น หรือคานไปเลยก็ได้
ระวังผง ฝุ่น ที่หลุดหล่อนจากตัวอิฐเอง และความชื้นจากภายนอก โดยปัจจุบันการใช้อิฐสร้างผนังเพื่อห่อหุ้ม ป้องกันจากสภาพแวดล้อมภายนอก และจะต้องมีวัสดุปิดผิวอีกครั้งโดยการฉาบปูน ทาสี ฯลฯ แต่ถ้าหากเราเลือกใช้การทำผนังก่ออิฐโชว์แนวเพียงอย่างเดียวต้องมีการเคลือบผิวด้วยน้ำยาอีกครั้ง เพื่อการหลุดร่อนของผิวอิฐ และป้องกันความชื้นจากภายนอก
ถ้าจากเหตุผลด้านบนแล้วไม่แน่ใจ แต่ยังอยากได้ ลองใช้วัสดุอิฐในรูปแบบอื่นๆ เช่น กระเบื้องอิฐ ทีเป็นอิฐตัดเป็นแผ่นๆ แล้วนำมากรุผนังโดยวิธีการเหมือนกระเบื้อง หรืออิฐเทียมแบบต่างๆ ซึ่งสวยงาม เรียบร้อย ก่อได้ยาวเรื่อยๆ โดยผนังก็ต้องฉาบปูนปรกติให้เสร็จก่อนแล้วเตรียมผิวหน้าปูนเหมือนกับการติดกระเบื้อง
5. "สัจจะวัสดุ" นี่ทาสีได้มั้ย
"สัจจะวัสดุ" คือการโชว์เนื้อแท้ของวัสดุ เกิดความงามในตัวของมันเอง โดยปรกติถ้าเราพูดถึงสัจจะวัสดุก็หมายถึงว่า ถ้าเป็นปูนก็เป็นปูนโชว์สีและพื้นผิวของปูนเลย ถ้าเป็นไม้ก็เป็นไม้ เป็นสีของเนื้อไม้เห็นเสี้ยนไม้ หากถ้าเรานำมาเปลี่ยนเช่น ถ้าสี พ่นสี ทำเงา อย่างนี้เรียกว่าไม่ใช่สัจจะวัสดุ โดยปรกติงานออกแบบตกแต่งสไตล์ลอฟต์ มักจะเห็นสัจจะวัสดุ แต่หากว่าการทาสี พ่นสี ปิดผิวด้วยวัสดุอื่นๆ(เช่น พลาสติกลามิเนตหรือฟอร์มิก้า) นั้นสำคัญมากเพราะเป็นการดูแลรักษาผิวของวัสดุนั้นให้คงทนยาวนาน หรือเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน ดังนั้นไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นสัจจะวัสดุเสมอไป พิจารณาตามความจริงและความเหมาะสม เช่น ห้องนอนทาสี หรือปิดwall paper บ้างก็ได้เพราะเราใช้งาน โดยอาจเลือกสีหรือรูปแบบที่เข้ากันกับสไตล์ ห้องน้ำปูกระเบื้องในส่วนเปียกก็ได้เพื่อการทำความสะอาด ส่วนสีก็ทาได้เพราะเป็นการรักษาพื้นผิว และให้มีชีวิตชีวาโดยควรเลือกทาสีในสัดส่วนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับสัจจะวัสดุโดยรวมของบ้าน เช่นในส่วนที่ต้องการความเรียบร้อย หรือทางด้านอารมณ์เช่นห้องที่ต้องการชีวิตชีวาและเลือกใช้สีไม่เยอะให้พอดูสัดส่วนส่วนที่ไม่รบกวนไม่งั้นจะสะเปะสะปะเป็นงาน Pop ไป ลองนึกถึงบ้านปูนเปลือยที่มีสีแดง สีส้ม สีฟ้า สีเขียว คาดเต็มไปหมดสิครับ
6. นี่มันบ้านหรือร้านลาบ!!!
คำพูดนี้ไม่ได้ดูถูกร้านลาบนะครับ แต่ที่ยกตัวอย่างร้านลาบเพื่อให้เห็นภาพที่เป็นงาน ชั่วคราว ไม่ถาวร เพราะเป็นสถานที่ที่เร่งทำอย่างรวดเร็ว ง่ายๆ งบไม่แพง เพื่อลดต้นทุนในการขายอาหาร จุดที่สังเกตุได้ง่ายคือ ความเนี้ยบ ฝีมือ โดยเฉพาะงานเหล็กที่เชื่อมแบบเร็วๆไม่เน้น วัสดุที่เป็นสัจจะวัสดุของแท้เลย (เหล็ก สังกะสี ปูนเปลือย) เพราะเค้าไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงหรือความคงทนอย่างนาน การจบงานที่ไม่ปราณีต หรือสัดส่วนที่ว่างที่จำกัด ดังนั้น หากเราเลือกใช้การออกแบบบ้าน หรือการตกแต่งภายในสไตล์ลอฟต์เราต้องเลือกช่างฝีมือดี เลือกใช้วัสดุที่ถึงแม้ว่าดูลอฟต์แต่มีความคงทนและสัดส่วนจังหวะที่ดี เลือกผู้ออกแบบที่ใช้การออกแบบที่มีสัดส่วน การจบงานที่ดี เพื่อให้บ้านสไตล์ลอฟต์ของเราดูดี คงทน มีความตั้งใจจริงในการออกแบบให้ออกมาลงตัว
7. ถามคนที่บ้านหรือยัง!
หากท่านตัดสินใจจะออกแบบบ้าน หรือตกแต่งภายในสไตล์ลอฟต์ พูดง่ายๆว่า “ฉันจะเป็นลอฟต์!!!!” เคยถามลูกท่านหรือยัง หรือเคยปรึกษาภรรยา แม่ยายหรือสมาชิกคนอื่นๆในบ้านด้วยหรือยัง? ถ้ายัง ท่านต้องคิดหนักๆว่ามันเป็นสิ่งที่เราชอบคนเดียวหรือเปล่า เด็กๆจะชอบปูนดูดิบๆสกปรก หรือชอบห้องที่มีสีสันสดใส พื้นผิวเรียบๆไม่อันตราย หรือ ผู้สูงอายุที่ต้องระวัง ดูแลมากๆ เนื่องจากในการอยู่อาศัยจริงๆ มันมีอะไรมากกว่านั้น เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน การอยู่อาศัย หรือเลือกตกแต่งเป็นบางส่วน แต่ถ้าหากท่านพร้อม และไม่ติดอะไรก็ลุยมันไปเลยครับ
8. อย่าคิดว่า "ลอฟต์" นั้นราคาก่อสร้างถูก!
หลายๆท่านเข้าใจผิดคิดว่าการออกแบบตกแต่งในสไตล์ลอฟต์นั้นน่าจะมีราคาค่าก่อสร้างไม่แพง เพราะวัสดุที่ใช้ไม่ได้มีราคาสูงเท่าใดเลย จริงๆ ก็ใช่ แต่บางอย่างก็ต้องลงทุน เช่น ค่าออกแบบของนักออกแบบที่เข้าใจมัน ช่างฝีมือที่ดี(เพราะถ้าไม่ดีจะไม่สวยเลยครับ เช่น ช่างขัดมัน ช่างไฟที่เดินท่อเหล็กเก่งๆ) หรือวัสดุบางอย่างเช่น การเดินท่อร้อยสายไฟในท่อโลหะ เป็นต้น ซึ่งพอถัวเฉลี่ยแล้วก็พอๆกันกับงานสไตล์อื่นๆทั่วไป
9. ใช้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
อาคารบางอาคาร วัสดุบางอย่างถ้านานๆเก่าไปจะไม่สวย แต่บางอย่างต้องให้มันผ่านกาลเวลา ยิ่งเก่าก็ยิ่งสวย เช่น วัดโบราณต่างๆ ยิ่วเก่ายิ่งสวย หรือผนังปูน/หรือไม้ที่ร่องรอยการใช้งานผ่านไปนานๆยิ่งดูมีราคา บางครั้งไม่ต้องใจร้อน และต้องยอมรับกับความเก่านั้นได้ งานสไตล์ลอฟต์อาจดูไม่เรียบร้อยถ้าท่านไม่ชอบมันจริง นานๆไปท่านจะเบื่อแล้วจะแก้ยาก ข้อดีของงานสไตล์ลอฟต์คือถ้าท่านชอบมันจริงๆ ยิ่งนานๆไป หากท่านดูแลรักษาดี ทำความสะอาดสม่ำเสมอ ผ่านไปกี่ปีมันก็ไม่มีวันเชย เพราะเราเห็นมันมานานแล้วในอดีต (หมายเหตุ ต้องออกแบบสวยด้วยนะครับ55)
10. ต้องเตรียมใจรับมือกับคำถาม “บ้านยังไม่เสร็จหรือลูก?!?”
ปัญหานี้พบเจอได้บ่อยๆ จากผู้ใหญ่ที่ช่วงอายุมาก ผ่านการทำงานสู้ชีวิต เก็บหอมรอมริบมาเพื่อใช้สร้างบ้านที่ให้คุณค่า คุณภาพชีวิตที่ดี ในทรรศนคติของท่าน เมื่อสร้างบ้านก็ต้องการบ้านที่เรียบร้อย ดูสะอาด ภูมิฐาน บางครั้งเมื่อมาเห็นบ้านเราเป็นปูนเปลือยไม่ได้ทาสี ท่านก็นึกว่ายังไม่เสร็จทั้งที่จริง เสร็จแล้ว วิธีการนึงที่ช่วยได้คือ ทำให้บ้านมันสมบูรณ์ อบอุ่น เช่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไสตล์แตกต่างกันไปทำให้รู้สึกเป็นบ้านที่สวยงาม หรือนำของตกแต่ง ภาพถ่าย ของสะสม ความทรงจำต่างๆ ทำให้บ้านหรือสถานที่นั้นๆสมบูรณ์ ไม่ให้เวิ้งว้าง เพราะลอฟต์มันมาจากโรงงานแต่นี้คือบ้าน เราก็ต้องทำให้มันมีความรู้สึกเหมือนบ้านของเราเอง ไม่จำเป็นว่าลอฟต์จะต้องแข็งกระด้าวเสมอไป
สรุป!! การออกแบบตกแต่งสไตล์ลอฟต์แต่เดิมเกิดจากการนำโรงงานเก่าที่ถูกทิ้งร้างมาใช่ใหม่ ปัจจุบันเป็นที่นิยม ชื่นชอบในความดิบ เท่ห์ และเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ หากแต่ด้วยว่าความงามของลอฟต์แต่เดิมมันเกิดจากความลงตัวของมันเองของลักษณะอาคารที่เป็นโกดัง หรือโรงงาน ปัจจุบันเรานำมาใช้กับอาคารใหม่ เช่น บ้าน ร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ ซึ่งการจะนำความงามของมันมาใช้ต้องเข้าใจที่มา และข้อจำกัดของมัน เพื่อปรับใช้ให้หมาะสม เรื่อง 10 เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเรื่องจริงที่ท่านรับรู้(ซึ่งจริงๆอาจจะมากกว่านี้ที่เรายังนึกไม่ถึง) เพื่อการปรับใช้ให้เหมาะกับบ้าน ที่พักอาศัย หรืออาคารของเราในภาวะการณ์ปัจจุบัน โดยเลือกใช้ให้เหมาะสม หรือปรึกษานักออกแบบที่ดีและเข้าใจมัน เพราะบ้านก็คือบ้านไม่ใช่โรงงาน บ้านมีความอบอุ่นและมีชีวิตชีวามากกว่าโรงงาน
Pilaster Studio Design ของเราเป็นสำนักงานออกแบบที่ชื่นชอบในงานลอฟต์มาก แต่ก็ไม่ลืมประเด็นพื้นฐานความเป็นจริงของการอยู่อาศัยหรือใช้งาน เรามีงานที่ออกแบบด้วยสไตล์ลอฟต์ที่พอจะเป็นตัวอย่างการผสมผสานการออกแบบสไตล์ลอฟต์กับการใช้งานจริงอยู่พอสมควร ซึ่งท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมผลงานบางส่วนที่ออกแบบในสไตล์ลอฟต์ เพื่อเป็นตัวอย่างไอเดียได้ เช่น โครงการ Pilaster House, E&I Office, KSG Office เป็นต้น และหากท่านสนใจติดต่องานออกแบบของเราสามารถคิดต่อได้ตาม link ด้านล่างครับ ....ขอบคุณครับ
ผู้เขียน: ปิติ เพชรดำ
Design Director Pilaster Studio Design
Comments