top of page

รีโนเวทโรงแรมโฮสเทล Apo Pasttell: เมื่องานออกแบบภายในเล่าเรื่องราวผ่านสิ่งเดิม

  • รูปภาพนักเขียน: gpetdum
    gpetdum
  • 5 มิ.ย.
  • ยาว 3 นาที

ที่มาที่ไปในการออกแบบภายในและการ Renovate


COVID-19 เป็นภัยพิบัติทางสาธารณสุขที่ทั่วโลกได้พบเจอ ภัยพิบัตินี้ส่งผลกระทบและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมไปในทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก หรือโรงแรมประเภท Boutique หรือ Hostel ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ จากการที่ผู้คนไม่มีการเดินทางท่องเที่ยว ต้องเก็บตัวอยู่ที่บ้าน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติไม่มี ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กต่างๆ ขาดสภาพคล่อง หรือถ้าอยู่ได้ก็ไม่คุ้ม โครงการออกแบบปรับปรุงภายใน (Interior Renovate) ของโรงแรม Apo นี้เกิดจากที่โรงแรมอาคารข้างๆ ที่อยู่ติดกันได้ทำการขายต่อ ทำให้เจ้าของโครงการต้องการที่จะขยายต่อเพิ่มเติม เพื่อให้โรงแรมได้มีจำนวนห้องมากขึ้น…...แต่เมื่อซื้อมาแล้วจะทำอย่างไร..จึงเป็นที่มาของการติดต่อทีมงานของเรา เนื่องจาก Pilaster Studio Design ได้เป็นผู้ออกแบบภายใน Apo เดิม (ดูผลงานออกแบบ Apo Hotel เดิมได้ที่ https://www.pilasterstudio.com/apohotel ) เพื่อที่จะเสนอแนวคิดหรือแนวทางต่อไป ทางทีมงานของเราจึงต้องขอขอบคุณทางเจ้าของโครงการมา ณ ที่นี้ด้วยครับ


รูปภายนอกอาคารที่จะทำการออกแบบปรับปรุงรีโนเวท


สิ่งที่เจอ ทั้งปัญหาและข้อได้เปรียบในการออกแบบปรับปรุงภายใน (Interior Renovate)


ทีมงานของเราได้เดินทางไปสำรวจอาคารใหม่(ที่เก่า) เพื่อนำมาวิเคราะห์ก่อนนำข้อมูลใช้ในกาออกแบบ สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อดีของการซื้อต่ออาคารใหม่นี้คือ เจ้าของเก่าได้ขายอาคารอาคารพร้อมเฟอร์นิเจอร์เก่า ทั้ง เตียง ตู้ โต๊ะ ต่างๆ ที่พร้อมต่อยอดกิจการได้เลย เรียกว่าได้เฟอร์นิเจอร์สิ่งอำนวยความสะดวกใน function ของโรงแรมมาเลย เจ้าของโครงการ Apo จะได้ประหยัดในส่วนนี้ไปได้เยอะ (ใครเจอวิกฤต COVID-19มา จะเข้าใจว่าลดต้นทุนและความเสี่ยงไปได้เยอะเลย) ส่วนปัญหาก็คือ รูปแบบนั้นช่างแตกต่างกับ theme ของโรงแรมเดิมอย่างสิ้นเชิง ...เหมือน ยกโซฟาของแม่ (ซึ่งจริงๆก็มีความงามในแบบของเค้านะ) มาไว้ในห้องลูกสาวซึ่งเป็นอีกแบบ แล้วที่นี้จะทำอย่างไรดี เป็นโจทย์ที่ยากสำหรับการออกแบบภายในโรงแรม อีกทั้งเรื่องการชื่อมต่อทางสัญจรระหว่าง 2 อาคารเข้าด้วยกัน เพื่อการควบคุมในการเข้าพัก เช็คอิน และความปลอดภัยต่างๆ โดยสรุป สภาพเดิมที่ต้องวิเคราะห์ก่อนในงาน renovate ดังนี้

1. รูปแบบเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งในการออกแบบภายในที่ต่างกันมาก

2. ตัวอาคารที่ซื้อมาใหม่กับอาคารเดิมเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ อาคารใหม่ชั้นล่างเป็นส่วนที่ให้คนอื่นเช่า ส่วนชั้น 2-4 ไปจะเป็นส่วนห้องพักจะทำการเชื่อมต่อโดยผ่านเคาน์เตอร์เช็คอินของอาคารเก่าได้อย่างไร


ภาพแสดงการสำรวจบันทึกสภาพเดิมของโฮสเทล ก่อนทำการออกแบบและปรับปรุงภายใน
"ภาพแสดงการสำรวจสภาพเดิม และเฟอร์นิเจอร์เก่าที่ติดมากับโรงแรมเดิม"

แบบแปลนก่อสร้างเดิม เพื่อนำมาวิเคราะห์เป็นข้อมูลในการ renovate
"ภาพซ้ายแสดงการสำรวจตำแหน่งของระบบสวิทซ์และเต้ารับไฟฟ้า ภาพขวาแปลนอาคารเดิมกับอาคารใหม่ในชั้นที่2 ที่จะทำการรีโนเวท ห้องตรงกลาง(สีฟ้า)จะเป็นห้องที่อับมืด ไม่มีหน้าต่าง และอยู่ติดกับบันไดอาคาร Apo เดิม ซึ่งคาดว่าน่าจะทำทางเชื่อมบริเวณนี้"

3. อาคารใหม่จะมีห้องพักตรงกลางที่จะไม่มีหน้าต่าง มืด อับ (นึกถึงห้องตรงกลางของตึกแถว) ถึงจะออกแบบ renovate ใหม่อย่างสวยงามแล้ว ก็อาจจะไม่มีใครอยากพักห้องนี้ อาจจะทำให้ราคาห้องต้องลดราคาลงไป จะมีวิธีเพิ่มมูลค่าได้อย่างไร

4. ปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมาให้แก้ปัญหาเมื่อรื้อถอนไป (ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดในงาน renovate) เช่น เสาโผล่กลางห้อง ผนังไม่ใช่อย่างที่คิด ฯลฯ


สภาพห้องและเฟอร์นิเจอร์เดิมก่อนการออกแบบภายใน
"ภาพซ้ายทีมงานสำรวจรายละเอียดเก่าทุกอย่างเพื่อนำข้อมูลไปรีโนเวท ภาพขวาคือสภาพของห้องกลางอาคารที่ไม่มีช่องแสงหรือหน้าต่างเลย และการวางผังเฟอร์นิเจอร์ห้องที่ไม่ส่งเสริมการเข้าพักในโฮสเทล"

แนวทางการแก้ปัญหาเดิมที่เจอ เพื่อการออกแบบปรับปรุงภายใน (Interior Renovate) ต่อไป


เมื่อกลับมาถึงสตูดิโอ สิ่งแรกคือ นำรูปถ่าย โน้ตที่จด เอกสารแบบก่อสร้างเก่า เพื่อนำข้อมูล และปัญหาหลักๆที่ได้กล่าวในข้างต้นมาวิเคราะห์แนวทาง คิดแล้วคิดอีกๆๆ จนสรุปออกมาคร่าวๆ เพื่อนำเสนอแนวทางออกแบบรีโนเวทโฮสเทล ต่อเจ้าของโครงการได้ดังนี้


1. Design Concept

เรื่องรูปแบบการออกแบบตกแต่งภายใน เรานำรูปแบบของโรงแรม Apo เดิมที่เราเคยออกแบบกับรูป interior ที่ถ่ายมาของอาคารใหม่มานั่งดู ดูไปดูมา ไม่มีทางเลยที่จะเข้ากันได้ (Apo เดิมจะมีรูปแบบการออกแบบ interior เป็นแบบ Modern Chic) อีกอย่าง คือ เจ้าของโครงการต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์เดิม ซึ่งรูปทรงเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบนี้ (งานสไตล์) มันมีน้ำหนักทางdesign สูงมาก มิอาจจะลดน้ำหนักลงได้เลย การที่จะเชื่อม design เป็นไปได้ยาก …..คิดแล้วคิดอีกเลย…...ยอมแพ้!!! ใช่แล้วครับ ยอมแพ้ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงแล้ว เลยเสนอเจ้าของโครงการไปว่าแยก theme ไปเลย Apo เดิม กับ Apo ใหม่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แต่สามารถเชื่อมกันได้ด้วยอะไรซักอย่าง…….คิดไปคิดมา สีง่ายสุด โดย Apo เดิมนั้นมีสีเอกลักษณ์คือ สีน้ำเงินฟ้า คนจะจดจำ Apo ที่แปลว่า "ธาตุน้ำ" ด้วยสีฟ้า เราจะบอกว่าโรงแรมใหม่นี้คือ Apo ด้วยสีฟ้า ส่วนที่เป็นของเก่าเราจะทำสีใหม่ทับเพื่อให้ลดความแรงของงานสไตล์ลงโดยใช้สีเทา และเพื่อจะบอกด้วยว่าอันนี้เป็นของเก่า จึง เป็นที่มาของคำว่า Apo Pasttell ไม่ใช่ pastel นะครับ

past - “อดีต/ผ่านมาแล้ว/ของเดิม"

Tell – “บอกเล่า"

และแล้วก็เป็นโครงการออกแบบภายในโรงแรม Apo Pasttell ที่ไม่ใช่ Pastel ที่แปลว่าสีพาสเทล แต่ใช้สี pastel เพื่อลดความรุนแรงของรูปทรง ดังที่เคยมีผู้กล่าว่า "อะไรก็ซอฟต์ลงได้เมื่อเป็นสีพาสเทล" เป็นการเล่นคำที่สำหรับเราแล้วพอใจ (แต่เจ้าของอาจไม่พอใจเพราะผิดไวยกรณ์ HA HA!!) ส่วนแนวทางที่ใช้ก็คือ ใช้สีเดิมของงานออกแบบ Apo เดิมเป็นหลัก ของเก่าในโครงการใหม่ อาทิเช่น เฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ ตู้ โต๊ะเตียง จะใช้สีเทา ส่วนที่เพิ่มเข้าไปใหม่เพียงเล็กน้อย (ประหยัดงบประมาณ) เพื่อทำให้ space ในห้องพักมันสวยงามขึ้นจะใช้สีฟ้าของ Apo เดิม หยอดลูกเล่น งานกราฟิก Chic Chic เข้าไปเบาๆ ในความเก่านั้น เลยขอใช้คำว่า " Chic-Vintage-new in old” ให้กับเจ้าของโครงการ ซึ่งก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นในงานออกแบบของเรา


ภาพแสดงการสร้างแนวคิดในการออกแบบภายในและรีโนเวทโฮสเทล
"ภาพแสดงแนวคิดการรีโนเวทที่เหมือนคนสูงวัยที่ยังมีความเก๋ ชิค สดใส และวิธีการจัดการเปลี่ยนรูปลักษณ์เฟอร์นิเจอร์เก่าด้วยการทำสีใหม่สีพาสเทล และการถ่ายทอดดีไซน์จาก logoเดิมไปสู่ logoใหม่"

2. Circulation/Area Relationship

เรื่องของการเชื่อมต่อระหว่าง 2 อาคาร สำหรับการ renovate ต้องวิเคราะห์สิ่งที่มีอยู่เดิมเป็นเกณฑ์หลัก เมื่อพิจารณาว่าเคาน์เตอร์ต้อนรับ และเช็คอินอยู่ฝั่งอาคาร Apo เดิมและยังใช้งานได้ดีอยู่ ส่วนอาคารใหม่ชั้นล่างเป็นพื้นที่ให้เช่า (คลีนิกทันฑกรรม) เราก็คงจะเลือกใช้ทางเข้า-ออกเดิมเพื่อให้ผ่านเคาน์เตอร์ต้อนรับ (ในการควบคุม) โดยจะขึ้นไปแยกไปสู่อาคารใหม่ในชั้น 2 ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการทุบเจาะผนัง โดยจะทำเป็นโถง (เป็นพื้นที่ Semi Area)เป็นตัวแจกไปยัง โรงแรมเดิมและโรงแรมใหม่ และเป็นส่วนพื้นที่ตำแหน่งกลางอาคารที่สุดที่จะทำให้การสัญจรไปซ้ายและขวาไม่ไกลเกินไป เมื่อคิดได้ดังนี้จึงนำแบบก่อสร้างของทั้งสองอาคารมาวิเคราะห์ตำแหน่งที่จุดที่จะเชื่อมต่อ ซึ่งพบว่าโถงชานพักบันไดเป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดเพียงแต่บริเวณชานพักนั้นมีระดับที่ตำกว่าพื้นชั้นสองของอาคารใหม่ความลาดชันไม่เพียงพอต่อการเข้าถึง จึงต้องมีการออกแบบบันไดใหม่ทับบันไดเดิมเพื่อให้การเดินขึ้นบันไดไม่ลาดชันเกินไป บันไดกินพื้นที่ความยาวจนล้นพื้นที่เดิมอีกทั้งต้องออกแบบให้หลบหนีคานโครงสร้างเพื่อไม่ให้หัวชน ต้องมีการรื้อถอนเฟอร์นิเจอร์บางส่วน ซึ่งก็เป็นธรรมดาของ renovate แต่ผลที่ได้มีข้อดีมากกว่า..อีกทั้งการทำบันไดใหม่มีข้อดีคือสามารถเล่น design ลงไปในการกำหนดทิศทางสัญจรของอาคารเดิมกับใหม่ได้ (เราตั้งใจจะแยก design อยู่แล้ว) ทีมงานใช้การออกแบบสลับสี เพื่อให้รู้ว่าทางซ้ายเป็น Apo Pasttell ขวา คือ Apo Hotel เดิม ส่วนเมื่อทุบทะลุไปอีกอาคารแล้วก็ปรับห้องตรงกลางที่เจาะไปโดนซึ่งเป็นห้องมืดทึบ ไม่มีหน้าต่าง ให้เป็นส่วนกลาง มีทั้ง Pantry นั่งพัก ฯลฯ (เสียห้องที่ไม่ดีห้องนึงเพื่อรับผู้คนได้มากขึ้น) เพื่อเป็นโถงแจกไปยังห้องต่างๆของอาคารใหม่ ส่วนเรื่องไม่คาดคิดต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น เสาโผล่มาไม่ตรงแบบ แนวตำหนิที่พื้นเมื่อรื้อผนังออก ฯลฯ ก็จะใช้งานเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในและงานกราฟิกเข้าช่วยเก็บงาน

การเชื่อมต่ออีกอย่างระหว่างอาคารเดิมกับอาคารใหม่ คือ การทำให้คนรับรู้จากภายนอกว่า " อ๋อ โรงแรมที่เป็นอาคาร 4 คูหานี้คือ โรงแรมเดียวกัน" คือ การทำเปลือกอาคารตกแต่งภายนอก (Facade Design) ซึ่งไอเดียนี้เป็นของเจ้าของโครงการเอง ซึ่งเราก็เห็นชอบด้วย การออกแบบก็ต้องสะท้อนเส้นสายของ Apo Hotel อีกทั้งต้องไม่บังวิวของปากน้ำ ซึ่งก็ออกมายังที่เห็น (ทำไปหลายรูปแบบมาก)


แปลนแสดงการรีโนเวทพื้นที่เพื่อการเชื่อมต่อของโรงแรมทั้งสองอาคาร
"ภาพแสดงการหาพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างสองอาคาร และการเช็คระยะบันไดกับความสูงในการเชื่อมต่อ เพื่อให้การรีโนเวทโฮสเทลนี้ได้รับผลกระทบกับโรงแรมเดิมน้อยที่สุด"

รูปแบบของการออกแบบตกแต่งภายในโถงบันไดที่รีโนเวทใหม่
"ภาพแสดงการออกแบบการเชื่อมต่อของสองอาคารโดยการแยกสีที่ต่างกันเพื่อบอกของเก่า-ของใหม่ และภาพจริงเมื่อสร้างเสร็จแล้ว"

ภาพแสดงการออกแบบปรับปรุง renovate ด้วย facade design
"ภาพแสดงการนำเสนอรูปแบบการตกแต่งเปลือกอาคารภายอก (Facade Design) เพื่อเชื่อมต่อภาพลักษณ์ภายนอกให้เป็นเนื้อหาดีไซน์เดียวกัน"

3. Room Type

ในเรื่องห้องที่กล่าวในหัวข้อปัญหาที่พบ ห้องทางปีกห้องอื่นๆ ไม่มีปัญหาใดๆเนื่องจากเป็นห้องริมภายนอก จะมีแค่ห้องตรงกลางที่ไม่มีหน้าต่าง มืดทึบ ที่กล่าวมา ตรงนี้เมื่อมาคิดวิเคราะห์แล้ว ไม่มีทางเลยที่จะเพิ่มช่องแสงเข้ามาได้ เคยเห็นหลายโครงการจะเปิดคอร์ตกลางเพื่อนำแสงเข้ามา สร้างลูกเล่น ต่างๆ สร้าง space ภายในที่สวยงามตรงกลาง แต่เมื่อพิจารณาจากงบประมาณ โครงสร้าง และจำนวนห้องแล้วมิอาจจะเลือกทางเลือกนั้นได้ (จำนวนห้องจะหายไปเยอะเลย) ทางเจ้าของโครงการและทีมงานออกแบบ เจอทางเลือกที่ว่าในบริเวณแถวนี้ ไม่ค่อยจะมีโรงแรมที่จะมีห้องรองรับแขกลักษณะเป็นกลุ่ม เช่น ครอบครัว กลุ่มเพื่อนฝูง ฯลฯ ในเมื่อห้องตรงกลางไม่ค่อยมีใครอยากพัก และเลือกห้องนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายในการจอง ทำไมเราไม่สร้างห้องใหญ่ไปเลยในลักษณะ Connecting Room คือ เป็นสองห้องแต่เชื่อมกันได้ตรงกลาง เพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับแขกที่มาเป็นกลุ่ม เช่น ครอบครัว สามารถสร้างราคาได้มากขึ้น และถ้าจำเป็นจริงๆ ก็สามารถจองแยกเป็นห้องได้ (เพราะยังไงก็ขายยากอยู่แล้ว) ปัญหาตรงนี้จึงแก้ปัญหาเชิงนโยบายไป ดังนั้น room type ของโครงการออกแบบปรับปรุงภายใน (Interior Renovate) ของ Apo Pasttell ซึ่งเป็นhostel ขนาดเล็กนี้ นี้จีงสรุปได้สามแบบ

- ห้องริมเห็นวิวภายนอกset เป็น standard/twin bedroom (ใช้เตียงขนาดปรกติ 6 ฟุต และ 3.5ฟุต สำหรับ Twin Room)

- ห้องเล็ก เพราะโดนการตัดปรับปรุงเป็นทางหนีไฟ เป็น small Room (ใช้เตียงเล็กขนาด 5 ฟุต)

- ห้องกลางจะทำการเชื่อมกับห้องริมห้องหนึ่งเป็น Connecting Room โดยมีห้องหนึ่งเป็น Standard Room เมื่อไม่มีแขกพักห้องกลางหรือไม่ได้มาเป็นกลุ่ม


แปลนห้องที่แสดงเมื่อรีโนเวทห้องแล้ว
"แปลนแสดงการปรับปรุง (renovate)ห้องพักห้องกลางที่เล็กและไม่มีหน้าต่าง ให้รวมกับห้อง standard twin bedroom เป็นห้องครอบครัว (Family Suite) เพื่อเพิ่มมูลค่า...โดยในแปลนเฟอร์นิเจอร์ของเดิม(สีขาว) รวมกับของใหม่ที่เติมเข้าไป (สีเหลือง)

ทัศนียภาพจำลองการออกแบบตกแต่งภายในห้องพัก
"ทัศนียภาพจำลอง (3D Interior Perspective) ห้องพักแบบ standard โดยรีโนเวทปรับปรุงห้องใหม่ เฟอร์นิเจอร์เก่าจะทำสีใหม่เป็นสีพ่นสีเทา ส่วนงาน Built In ที่เติมเข้าไปจะใช้สีฟ้า อีกทั้งยังเติมลูกเล่นเช่น Art Work บนหัวเตียง เพื่อดึงลูกเล่นมาจาก Apo Hotel เดิม"

ทัศนียภาพจำลองการออกแบบตกแต่งภายในห้องพัก
"ทัศนียภาพจำลอง (3D Interior Perspective) ห้อง conneting Suite สำหรับครอบครัว โดยเจาะผนังเชื่อม 2 ห้องเข้ากับห้องกลาง โดยใช้ประตูที่ทำเลียนแบบประตูห้องเดิมเป็นตัวแบ่งห้อง"

อีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความปวดหัวทางคณิตศาสตร์ (ผู้ออกแบบไม่เก่งคณิตอย่างมาก Ha Ha !) คือการที่ต้องสำรวจจำนวนเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่เดิม และจัดเข้าไปใหม่ในรูปแบบและจำนวนห้องที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะพยายามใช้ของเดิมให้พอและเหมาะสม ถ้าบวกลบผิดก็อาจจะมีผลในเรื่องหาของใหม่มาแทน แล้วจะsetไว้ตรงไหน ยกตัวอย่างเช่น โต๊ะโคมไฟข้างเตียง จากแบบเดิมเป็นเตียงเดียวมีโคมไฟ2ข้างเตียง พอเปลี่ยนเป็นเตียงคู่จะแหว่งตรงกลาง ต้องเอาของห้องอื่นมาเติม เติมยังไงให้พอ และในบ้างห้องของเดิมรูปแบบโคมไฟไม่เหมือนกัน…. ถึงจุดนี้ก็ผ่านมาได้ โดยแยกห้องที่ขาดต้องเขียนแบบหรือซื้อใหม่เข้ามาเติม...โคมไฟพอได้ แต่ถ้าเรื่องเตียงนี้เรื่องใหญ่…..แต่ก็ผ่านมาแล้ว Ha Ha!


ภาพแสดงการนำเฟอร์นิเจอร์มาปรับปรุงใช้ใหม่
"ภาพโคมไฟเก่าที่จำนวนอาจจะไม่พอต่อเตียงนอนในห้อง ต้องเขียนแบบสั่งทำขึ้นมาใหม่ และทำสีใหม่ให้สอดคล้องกับดีไซน์ใหม่เป็นสีพาสเทล"

4. Unexpected things

ปัญหาอื่นๆที่เจอ ก็คือเรื่องความไม่คาดคิดในเรื่องโครงสร้างที่จะไม่ตรงกับแบบในกระดาษ(อยู่แล้ว) เพราะเรามองเข้าไปไม่เห็นในสิ่งที่ถูกปกคลุมอยู่ เช่น เมื่อรื้อผนังไปแล้วเพื่อทำงานเฟอร์นิเจอร์เจอเสาที่ยื่นมากินเนื้อที่ที่ออกแบบ ปัญหาห้องน้ำเสื่อมผัง น้ำซึมรั่ว ฯลฯ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปรกติของงานออกแบบปรับปรุงภายใน (Interior Renovate) ซึ่งก็ต้องแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์กันไป เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาก่อสร้างต้องตั้งงบประมาณในเรื่องพวกนี้เผื่อไว้ระดับนึงด้วยครับ นอกจากเนื้องานในงานออกแบบ Interior เพราะมันเกิดขึ้นได้เสมอครับ


ภาพแสดงงานตกแต่งภายใน Built In ผนังเพื่อปกปิดความบกพร่องจากการรื้อถอน
"ภาพการกรุผนังตกแต่ง Built In เพื่อสร้างลูกเล่นความต่อเนื่องของพื้นที่ และเพื่อกลบเกลื่อนโครงสร้างหรือส่วนที่ไม่สวยงามจากการรื้อถอน"

บทสรุปสุดท้ายก็ผ่านไปได้อย่าน่าประทับใจ


โครงการออกแบบภายในโฮสเทลนี้ ซึ่งเป็นงานลักษณะ Interior Renovate มีทั้งความยากปนง่าย ซับซ้อน และทำงานหนักกว่าการออกแบบภายใน (Interior Design) ธรรมดาๆ ที่เป็นงานสร้างใหม่อยู่เสมอ ต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียของสภาพเดิม พิจารณาองค์ประกอบเดิมอันไหนเก็บอันไหนทำใหม่ มีเรื่องงบประมาณที่อาจจะคาดไม่ถึงเกิดขึ้น เพราะฉนั้นเก็บของเดิมที่มีค่าไว้ใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด อีกหนึ่งประเด็นที่จะเพิ่มความยากเข้ามาอีกก็คือ หากเป็นการ renovate ใน function การใช้งานเดิม เช่น ปรับปรุงบ้าน โรงแรม ให้ใหม่ขึ้นทันสมัยขึ้น ก็อาจจะไม่เท่าไหร่ พิจารณาเรื่อง concept/Theme ที่ใช้ เปลี่ยน finishing วัสดุแล้วทำให้สดใหม๋ แต่หากงาน Renovate นั้นเป็นการเปลี่ยน function การใช้สอยนี่งานยากเลยละครับ เช่นเปลี่ยนจากตึกแถวหรือโกดังไปเป็นโรงแรม เปลี่ยนบ้านเป็นคาเฟ่ เป็นต้น ไหนจะเรื่องงานระบบสุขาภิบาล ไฟฟ้าที่ต้องตามมา เรื่องของที่ว่างภายใน (Interior Space)ที่รองรับคนที่มากขึ้น เป็นสาธารณะไม่ใช่ส่วนตัว ฯลฯ ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาความเป็นไปได้ ความคุ้มค่าตั้งแต่ขั้นตอนการวิเคราะห์โปรแกรมการออกแบบ โชดดีที่งานนี้ทีมงาน Pilaster Studio Design ได้รับโอกาส ความร่วมมือที่ดี ช่วยเหลือกันอย่างไมตรี ของ เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ช่างเทคนิคต่างๆ ทำให้งานนี้ผ่านไปได้ด้วยดี งานออกแบบปรับปรุงภายใน (Interior Design Renovate) นี้อาจจะไม่ใช่งานที่ว้าว!! ที่สุด แต่มันเป็นงานที่ทีมงานของเราภูมิใจที่สุดอีกงานหนึ่ง เพราะมันเป็นงานที่เราต้องคิดวิเคราะห์ จากของเดิม เสริมเติมแต่งให้สวยงาม สะดวกสบาย และคุ้มค่าที่สุดจากข้อจำกัดต่างๆ และมันได้เพิ่มประสปการณ์ที่ดีให้กับพวกเราเป็นอย่างมาก


สุดท้ายนี้ผมหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับผู้ที่กำลังจะคิดปรับปรุง (Renovate) โครงการต่างๆของท่าน หวังว่าข้อคิดเล็กๆน้อยนี้จะช่วยให้ท่านได้ทำโครงการอย่างราบรื่นและชื่นมื่นที่สุดครับ




...ชมผลงานที่เสร็จแล้วทั้งหมดของ Apo Pasttell ได้ที่ Link นี้ https://www.pilasterstudio.com/apopasttellrenovate


...ชมวีดีโอของ Apo Pasttell ได้ที่หน้าเวปไซต์ www.pilasterstudio.com




Comments


แบบฟอร์มสมัครรับข่าวสาร

ขอบคุณสำหรับข้อมูล!

(+66)090 973 5863

line: pilasterstudio

  • Google Places
  • Facebook
  • Instagram

©2020 by Pilaster Studio Design.

bottom of page